ARHITECTURE

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความสัมพันธ์ของศิลปะ สถาปัตยกรรม ชุมชนและเมืองน่าอยู่

ความสัมพันธ์ของศิลปะ สถาปัตยกรรม ชุมชนและเมืองน่าอยู่

สิปประภา
บทนำ
 ศิลปะ คือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อความงามและความพึงพอใจ เป็นการสนองตอบทางอารมณ์
สถาปัตยกรรม คือศิลปะแขนงหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์โดยตรง หน้าที่ของสถาปัตยกรรมหาใช่เพียงเพื่อประโยชน์ใช้สอยในด้านการอยู่อาศัยหรือใช้พื้นที่ในการทำกิจกรรมเท่านั้น แต่หน้าที่โดยตรงที่สำคัญอีกประการหนึ่งของสถาปัตยกรรมก็คือ การเป็นผลงานศิลปะที่มนุษย์สามารถเสพสุนทรียภาพได้ตลอดเวลา การออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีคุณค่าทางศิลปะและการใช้สอย สามารถช่วยกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ได้ การกำหนดพฤติกรรมมนุษย์อย่างสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการออกแบบสถาปัตยกรรม นอกจากจะเป็นการสร้างคุณค่าทางความงามให้แก่ชุมชนแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนามนุษย์ได้อีกด้วย
ชุมชน หรือ เมือง คือแหล่งที่รวมมนุษย์ให้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน การที่มนุษย์มาอยู่รวมกันเป็นชุมชน ไม่ว่าจะใหญ่ เล็ก เก่าแก่ หรือชุมชนใหม่ ชุมชนที่หนาแน่นหรือบางเบา ย่อมก่อให้เกิดวัฒนธรรมในชุมชนนั้นๆ ทั้งวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน วัฒนธรรมการใช้ภาษา การแต่งกาย ศิลปะ ประเพณี สิ่งก่อสร้าง ฯลฯ
ปัจจุบัน ศิลปะได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดผลบวกในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พัฒนาแล้วหรือด้อยโอกาส มีข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่าศิลปะสามารถทำให้มนุษย์ได้รับการพัฒนามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ้างงาน การมีส่วนร่วมในสังคม รวมถึงการพัฒนาในด้านอารมณ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต
ในชุมชน ศิลปะถูกนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าหลายแห่งได้ปฏิรูปชุมชนในท้องถิ่น โดยศิลปะสามารถทำหน้าที่ภายในชุมชนท้องถิ่น ได้ทำนองเดียวกับที่สามารถทำหน้าที่ภายในโรงเรียน เช่น การเพิ่มพูนพัฒนาการของปัจเจกบุคคลด้วยการช่วยสร้างความมั่นใจ ทักษะและแรงจูงใจ ช่วยเหลือในการพัฒนาทางด้านสังคมเพราะทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักเพื่อนใหม่และเกิดความสนใจในประเด็นใหม่ๆ ช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของท้องถิ่นที่ชาวบ้านมีความรู้สึกแง่บวกมากขึ้นต่อถิ่นที่ตนอยู่อาศัยและยังช่วยให้ผู้ร่วมกิจกรรมมีความรู้สึกที่ดีและแข็งแรงขึ้นจากการมีส่วนร่วมในโครงการศิลปะ
ศิลปะ สถาปัตยกรรม เมืองและชุมชนน่าอยู่ มีความสัมพันธ์กันและมีผลต่อการพัฒนามนุษย์อย่างไร จะขอกล่าวในรายละเอียดต่อจากนี้ไป

ความหมายของศิลปะ

ศิลปะ แต่เดิมหมายถึง งานช่างฝีมือ เป็นงานที่มนุษย์ใช้สติปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นด้วย ความประณีตวิจิตรบรรจง ฉะนั้นงานศิลปะจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลงานที่มนุษย์ใช้ปัญญา ความศรัทธา และความพากเพียรพยายามสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
คำว่า Art ตามแนวสากลนั้น มาจากคำ Arti และ Arte ซึ่งเริ่มใช้ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ความหมายของคำ Arti นั้น หมายถึงกลุ่มช่างฝีมือในศตวรรษที่ 14 , 15 และ 16 คำ Arte มีความหมายถึงฝีมือ ซึ่งรวมถึงความรู้ของการใช้วัสดุของศิลปินด้วย เช่น การผสมสีลงพื้นสำหรับการเขียนภาพสีน้ำมัน หรือการเตรียมและการใช้วัสดุอื่นๆ
การจำกัดความให้แน่นอนลงไปว่าศิลปะคืออะไรนั้น เป็นเรื่องยาก เพราะว่าศิลปะเป็นงานสร้างสรรค์
ศิลปินมีหน้าที่สร้างงานที่มีแนวคิดและรูปแบบแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ทฤษฎีศิลปะในสมัยหนึ่งอาจขัดแย้งกับของอีกสมัยหนึ่งอย่างตรงกันข้าม และทฤษฎีเหล่านั้นก็ล้วนเกิดขึ้นภายหลังผลงานสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนแปลงและก้าวล้ำหน้าไปก่อนแล้วทั้งสิ้น
ศิลปะกับมนุษย์
 มนุษย์ นับว่าเป็นสัตว์ชนิดเดียวในโลกที่สามารถรับรู้และสร้างสรรค์ศิลปะได้ ศิลปะจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างมหาศาล เพราะศิลปะมีส่วนช่วยเสริมสร้างจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้น กล่อมเกลาจิตใจให้อ่อนโยน ทำให้เกิดความกลมกลืน ความรักสามัคคีต่อกัน งานศิลปะถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสนองความต้องการทางอารมณ์และจิตใจ เป็นเครื่องมือระบายและถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก จากมนุษย์สู่มนุษย์ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างและพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ด้วย
ในอดีตที่ผ่านมา ศิลปะมักจะถูกจำกัดให้อยู่แต่ในแวดวงของศิลปินผู้สร้างสรรค์และสังคมชั้นสูงผู้สนใจเสพผลงานศิลปะเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ศิลปะถูกยอมรับว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับมนุษย์ในทุกๆ กลุ่ม และมีผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ด้วย
ศิลปะกับการท่องเที่ยวและเมืองน่าอยู่
จากความหมายของศิลปะ สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม จะเห็นได้ว่าทุกอย่างมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับศิลปะการท่องเที่ยวและแหล่งมรดกทางอารยะธรรม การท่องเที่ยวในปัจจุบันได้นำเอาศิลปะและความสวยงามของสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมความสวยงามของศิลปะ สถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์อันสวยงาม จึงเห็นได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำหลายแห่งได้จัดสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมาและอารยธรรมของสถานที่ ท่องเที่ยวนั้นๆ รวมทั้งผู้นักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางเพื่อเยี่ยมชมความงามของแหล่งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนในสถานที่เหล่านั้นที่เจ้าของชุมชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ร่วมกันอนุรักษ์และถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ วัฒนธรรมพื้นบ้าน วัฒนธรรมท้องถิ่นและแหล่งมรดกต่างๆ โดยอาจจัดแสดงไว้ตาม แกลเลอรีหรือจัดเป็นกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในแหล่งท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้ไปพร้อมๆ กับความเพลิดเพลิน นับว่าเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับประโยชน์ในแง่ของสมองและจิตใจเป็นอย่างยิ่ง จะเห็นได้ว่าศิลปะมีความสำคัญในการช่วยจรรโลงจิตใจ รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น